น้ำเห็ดเพื่อสุขภาพเทียนโก
เทียนโก คือน้ำเห็ดสมุนไพร โดยการรวบรวมเห็ดชั้น ที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อประโยชน์ต่อร่างกาย ผ่านการวิจัยและอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิต เพื่อรักษาคุณค่าของเห็ดที่มีอยู่ในน้ำเห็ดผสมสมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ดี
ประกอบด้วยเห็ด
1.เห็ดชิทาเกะ 2.เห็ดไมตาเกะ
3.เห็ดปุยฝ้าย 4.เห็ดหลินจือ
5.เห็ดหัวลิง 6.เห็ดตังถั่งเช่า
บรรจุ 250 มล./ขวด
วิธีใช้ : รับประทานวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 มิลลิลิตร แล้วดื่มน้ำตามมากๆ
ผ่านการรับรองจาก อย.หรือคณะกรรมการอาหารและยา
รับรองคุณภาพ อย.74-1-03553-2-007
คุณค่าทางอาหารและมีสรรพคุณเป็นยา อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆข้อมูลวิจัยทางโภชนาการ พบว่า ในเห็ดหัวลิงแห้ง 100 กรัม จะมีโปรตีน 26.3 กรัม(ซึ่งมีมากกว่าในเห็ดหอม 1 เท่า) มีกรดอะมิโนอยู่ 16 ชนิด ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับร่างกายอยู่ถึง
7 ชนิด เนื่องจากเห็ดหัวลิงมีโปรตีนสูง และมีวิตามินหลายชนิดจึงได้ชื่อว่า"เป็นเนื้อสัตว์จากพืช"
บำบัดอาการอักเสบเรื้อรัง อาการหอบหืด วัณโรค ถุงลมโป่งพองหรืออาการผิดปกติในปอดและหัวใจ
- เสริมประสิทธิภาพในการทำงานของ ตับ และไต
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ออกฤทธิ์ยับยั้งพิษและแบคทีเรีย และยับยั้งแบคทีเรียวัณโรค
- ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดและเพิ่มปริมาณเลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจและปอด
- ช่วยเพิ่มระดับ ออกซิเจน ช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก และอ่อนเพลีย
- ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว อาการประสาทเสื่อม ป้องกันโรคความจำเสื่อม ลดการตายของเซลล์สมอง
- ช่วยต้านและลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
เห็ดหอม Shitake
ที่ช่วยบำรุงสุขภาพ
- ช่วยป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตัน
ในสมอง
- กระตุ้นการไหลเวียนของระบบต่างๆ
มีการบริโภคมากเป็นอันดับสองของโลก
ซึ่งนอกจากจะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนแล้วเห็ดหอมยังเป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นยอดรวมถึงวิตามินซีบีโปแตสเซียมโปรตีนไนอาซินแคลเซียมแม็กนีเซียมและฟอสฟอรัสอีกด้วยในปัจจุบันมีรายงานว่านักวิจัยสามารถสกัดโปรตีนน้ำตาลได้จากเห็ดหอมซึ่งสารดังกล่าวมีประโยฃน์ในการบำบัดผู้ป่วยโรคเอดส์ได้มากกว่าอาซิโดไธมิดีนซะอีก
เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองพบว่าสารเลตินันที่สกัดได้จากเห็ดหอมนั้นมีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดเนื้องอกนอกจากนี้มันยังมีส่วนช่วยในการลดปริมาณคอเลสเตอรอลและความดันเลือดด้วยสำหรับในประเทศญี่ปุ่นพบว่าสารเลตินันสามารถนำมาใช้เป็นยาในการป้องกันโรคมะเร็งได้โดยสารดังกล่าวจะต้องใช้ควบคู่กับวิธีเคมีบำบัด
เห็ดไมตาเกะ
- ต้นกำเนิดของเห็ดไมตาเกะอยู่ที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติการใช้เป็นยารักษาโรคในตำราการแพทย์แผนจีนและญี่ปุ่นมาเป็น เวลากว่า3,000 ปี ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับร่างกาย
- นักวิจัยในปัจจุบัน ยังได้มีการค้นพบอีกว่าการรับประทานเห็ดไมตาเกะเป็นประจำจะช่วยปรับสมดุลของ ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลและฮอร์โมนอินซูลินในกระแส อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด
เห็ดหลินจือ
- รักษาโรคมะเร็ง อาทิ มะเร็งสมอง,เต้านม,กระดูก,เม็ดเลือด,ลำไส้,ตับ,ปากมดลูก,ในช่องท้อง เป็นต้น
- รักษาระบบไหลเวียนโลหิต อาทิ เส้นเลือดอุดตัน หลอดเลือดแข็งตัว น้ำตาลในเลือดสูง โรคหัวใจ
- รักษาโรคทางเดินหายใจ อาทิ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไข้หวัด หอบหืด ภูมิแพ้ อาการไอ
- รักษาโรคทางเดินอาหาร อาทิ โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องผูก ทางเดินอาหารอักเสบเรื้อรัง
- โรคอื่นๆ อาทิ ตับอับเสบ ไขข้ออักเสบ อัมพาต อัมพฤกษ์ ไตอักเสบ ไตวาย โรคปวดหัวข้างเดียว
- โรคภูมิเพี้ยน หรือ โรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ หรือโรค SLE หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า โรคพุ่มพวง
คุณค่าทางอาหารและมีสรรพคุณเป็นยา อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆข้อมูลวิจัยทางโภชนาการ พบว่า ในเห็ดหัวลิงแห้ง 100 กรัม จะมีโปรตีน 26.3 กรัม(ซึ่งมีมากกว่าในเห็ดหอม 1 เท่า) มีกรดอะมิโนอยู่ 16 ชนิด ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับร่างกายอยู่ถึง
7 ชนิด เนื่องจากเห็ดหัวลิงมีโปรตีนสูง และมีวิตามินหลายชนิดจึงได้ชื่อว่า"เป็นเนื้อสัตว์จากพืช"
บำบัดอาการอักเสบเรื้อรัง อาการหอบหืด วัณโรค ถุงลมโป่งพองหรืออาการผิดปกติในปอดและหัวใจ
- เสริมประสิทธิภาพในการทำงานของ ตับ และไต
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ออกฤทธิ์ยับยั้งพิษและแบคทีเรีย และยับยั้งแบคทีเรียวัณโรค
- ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดและเพิ่มปริมาณเลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจและปอด
- ช่วยเพิ่มระดับ ออกซิเจน ช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก และอ่อนเพลีย
- ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว อาการประสาทเสื่อม ป้องกันโรคความจำเสื่อม ลดการตายของเซลล์สมอง
- ช่วยต้านและลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
เห็ดหอม Shitake
ที่ช่วยบำรุงสุขภาพ
- ช่วยป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตัน
ในสมอง
- กระตุ้นการไหลเวียนของระบบต่างๆ
มีการบริโภคมากเป็นอันดับสองของโลก
ซึ่งนอกจากจะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนแล้วเห็ดหอมยังเป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นยอดรวมถึงวิตามินซีบีโปแตสเซียมโปรตีนไนอาซินแคลเซียมแม็กนีเซียมและฟอสฟอรัสอีกด้วยในปัจจุบันมีรายงานว่านักวิจัยสามารถสกัดโปรตีนน้ำตาลได้จากเห็ดหอมซึ่งสารดังกล่าวมีประโยฃน์ในการบำบัดผู้ป่วยโรคเอดส์ได้มากกว่าอาซิโดไธมิดีนซะอีก
เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองพบว่าสารเลตินันที่สกัดได้จากเห็ดหอมนั้นมีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดเนื้องอกนอกจากนี้มันยังมีส่วนช่วยในการลดปริมาณคอเลสเตอรอลและความดันเลือดด้วยสำหรับในประเทศญี่ปุ่นพบว่าสารเลตินันสามารถนำมาใช้เป็นยาในการป้องกันโรคมะเร็งได้โดยสารดังกล่าวจะต้องใช้ควบคู่กับวิธีเคมีบำบัด
เห็ดไมตาเกะ
- ต้นกำเนิดของเห็ดไมตาเกะอยู่ที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติการใช้เป็นยารักษาโรคในตำราการแพทย์แผนจีนและญี่ปุ่นมาเป็น เวลากว่า3,000 ปี ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับร่างกาย
- นักวิจัยในปัจจุบัน ยังได้มีการค้นพบอีกว่าการรับประทานเห็ดไมตาเกะเป็นประจำจะช่วยปรับสมดุลของ ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลและฮอร์โมนอินซูลินในกระแส อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด
เห็ดหลินจือ
- รักษาโรคมะเร็ง อาทิ มะเร็งสมอง,เต้านม,กระดูก,เม็ดเลือด,ลำไส้,ตับ,ปากมดลูก,ในช่องท้อง เป็นต้น
- รักษาระบบไหลเวียนโลหิต อาทิ เส้นเลือดอุดตัน หลอดเลือดแข็งตัว น้ำตาลในเลือดสูง โรคหัวใจ
- รักษาโรคทางเดินหายใจ อาทิ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไข้หวัด หอบหืด ภูมิแพ้ อาการไอ
- รักษาโรคทางเดินอาหาร อาทิ โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องผูก ทางเดินอาหารอักเสบเรื้อรัง
- โรคอื่นๆ อาทิ ตับอับเสบ ไขข้ออักเสบ อัมพาต อัมพฤกษ์ ไตอักเสบ ไตวาย โรคปวดหัวข้างเดียว
- โรคภูมิเพี้ยน หรือ โรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ หรือโรค SLE หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า โรคพุ่มพวง