เป็นสมุนไพรจีนชั้นยอดบรรจุแคปซูล เหมาะสำหรับท่านที่ป่วยโรคเบาหวาน สามารถทานควบคู่ไปกับยาแผนปัจจุบันได้ ยาลี่ผิงเจียวหนังได้ผ่านการรับรองการตรวจสารสเตียรอยด์ และได้รับการขึ้นทะเบียนยาจากอย.อย่างถูกต้อง มีทะเบียน อย. เลขทะเบียนที่ G.22/50
สรรพคุณลี่ผิงเจียวหนัง : แก้กระหายน้ำ ลดกระแสน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้เป็นเบาหวาน
สนใจสอบถามและสั่งซื้อ โทร .089-487-4773 หรือ Line: @vetaming
วิธีใช้ลี่ผิงเจียวหนัง : รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร ควรรับประทานกับน้ำอุ่น เพื่อประสิทธิภาพของยา
ขนาดบรรจุของลี่ผิง : บรรจุในแผงบริสเตอร์แพค แผงละ 12 แคปซูล แคปซูล ละ 600 มิลลิกรัม (บรรจุผงยา 500 มิลลิกรัม) 1 กล่องมี 2 แผง (24 แคปซูล)
สมุนไพรในลี่ผิงเจียวหนัง (สรรพคุณสมุนไพร)
คำแนะนำ : ควรรับประทานยาลี่ผิงเจียวหนังกับน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรทานกับน้ำเย็น | อาหารที่ควรงด โดยทั่วไปแล้วการทานยาสมุนไพรจีน ควรจะงดเว้นอาหารบางชนิดที่มีฤทธิ์ในการล้างยา หรือลดประสิทธิภาพยา เช่น หน่อไม้ หัวไช้เท้า ฟัก แตงกวา แตงโม เบียร์ เป็นต้น ข้อสำคัญ-ผู้ที่เป็นหวัด และหญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานยานี้
เพิ่มเติม : ลี่ผิงเจียวหนัง เหมาะสำหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวาน หรือระดับน้ำตาลไม่ปกติ ซึ่งจะทำให้กระหายน้ำมากอยู่เป็นประจำ ยาลี่ผิงเจียวหนังจะช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ไม่ปัสสาวะบ่อย ไตไม่ต้องทำงานหนัก แนะนำให้ทานคู่กับ จิ่วเจิ้งปู่เซินเจียวหนัง ทั้งสองตัวยาจะส่งเสริมกันทำให้ได้ผลลัพท์ดียิ่งขึ้น
โรคเบาหวานคืออะไร
อาหารที่รับประทานเข้าไปส่วนใหญ่จะเปลี่ยนจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในกระแส เลือดเพื่อใช้เป็นพลังงาน เซลล์ในตับอ่อนชื่อเบต้าเซลล์เป็นตัวสร้างอินซูลิน อินซูลินเป็นตัวนำน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย เพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต ถ้าขาดอินซูลินหรือการออกฤทธิ์ไม่ดี ร่างกายจะใช้น้ำตาลไม่ได้ จึงทำให้น้ำตาลในเลือดสูง
โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ(มากกว่าหรือเท่ากับ 126 mg/dl) เกิดเนื่องจากตับอ่อนสร้าง ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ได้ น้อยหรือไม่ได้เลย เมื่ออินซูลินในร่างกายไม่พอ น้ำตาลก็ไม่ถูกนำไปใช้ จึงเกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือกและอวัยวะต่าง ๆ เมื่อน้ำตาลคั่งในเลือดมาก ๆ ก็จะถูกไตกรองออกมาในปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหวานหรือมีมดขึ้นได้ จึงเรียกว่า เบาหวาน ผู้ป่วยมักจะมีอาการ ปัสสาวะบ่อยและมาก ร่างกายจึงต้องเผาผลาญพลังงานจากกล้ามเนื้อและไขมันแทน ทำให้ร่างกายผ่ายผอม ไม่มีไขมัน กล้ามเนื้อฝ่อลีบ อ่อนเปลี้ย เพลียแรง นอกจากนี้ โรคเบาหวานนำมาซึ่งภาวะ แทรกซ้อนในอวัยวะต่างๆ เช่น
ตา อาจเป็นต้อกระจกก่อนวัย ประสาทตาหรือจอตาเสื่อมและอาจทำให้ตาบอดในที่สุด
ไต มักจะเสื่อม จนเกิดภาวะไตวาย มีอาการ บวม ซีด ความดันโลหิตสุง
ระบบประสาท ผู้ป่วยอาจเป็นปลายประสาทอักเสบ มีอาการชาหรือปวดร้อนตามปลายมือปลายเท้า
ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง , อัมพาต , โรคหัวใจขาดเลือด
เป็นโรคติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากภูมิต้านทานโรคต่ำ วัณโรคปอด,กระเพาะปัสสาวะอักเสบ,กรวยไตอักเสบ,ช่องคลอดอักเสบ, กระเพาะอาหารไมีทำงาน มีอาการจุกเสียด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเดิน หรือมีอาการท้องเดินตอนกลางคืนผู้ป่วยชายมักมีภาวะหย่อนสรรถภาพทางเพศ
ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง และ ตีบ ทำให้เป็นอัมพฤกา์อัมพาตและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิต อันดับหนึ่งของผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าหลอดหลอดเลือดแดงที่เ้ท้าแข็งและตีบ เลือดไปเลี้่ยงเท้าไม่พออาจทำให้เท้าเย็น เป็นตะควิวหรือปวดขณะเดินมาก ๆ หรืออาจทำให้แผลหายยาก หรือนิ้วเท้าเป็นเนื้อตายเน่า
ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย เช่น วัณโรคปอดกระเพาะปัสสวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ กลาก โรคเชื้อรา เป็นฝี หรือ พุพองบ่อย นิ้วเท้าหรือช่องคลอดอักเสบ เป็นต้น
แผลที่เท้า เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยเนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมักมีภาวะปลายประสาทอักเสบ และภาวะขาดเลือด ทำให้เท้าชาเกิดแผลได้ง่ายและหายยาก หรือเป็นเนื้อตายเน่า บางครั้งจำเป็นต้องตัดนิ้วเท้าหรือตัดเท้า ทำให้เกิดภาวะพิการได้
ทำไมผู้ป่วยเบาหวานมักเสียชีวิตจากโรคหัวใจ
ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดหัวใจตีบ เนื่องจากระดับน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นจะทำให้ผนังหลอดเลือดแดงทั่วทั้ง ร่างกายเกิดความผิดปกติและเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับผู้ป่วยเบาหวานมักจะมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคไขมันในเลือดสูง ความดันในโลหิตสูง โรคอ้วน การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้จะเร่งให้โครงสร้างและสภาพของหลอดเลือดเกิดความผิดปกติมาก ขึ้นและเร็วขึ้น หลอดเลือดหัวใจจึงเกิดการอักเสบ ทำให้คราบไขมัน ที่เกาะตามผนังหลอดเลือดมีการแตกออก และัเกิดลิ่มเลือดมาอุดตันหลอดเลือดหัวใจอย่างเฉียบพลันส่งผลให้กล้ามเนื้อ หัวใจตาย โรคหลอดเลือดหัวใจตีบจึงเป็นเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของผู้ป่วยเบาหวาน
การบำบัดโรคเบาหวานของการแพทย์จีนจึงไม่ได้หยุดอยู่แค่การควบคุมระดับ น้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ยังเน้นความสำคัญในการบำบัดต้นเหตุและโรคแทรกซ้อนของเบาหวานไปพร้อม ๆ กันคือ
- ทำความสะอาดและทะลวงหลอดเลือด สลายลิ่มเลือดและไขมัน ทำให้หลอดเลือดโล่งสะอาดเพื่อป้องกัน และ บำบัดโรคแทรกซ้อนของเบาหวาน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น
- ปรับสมดุลย์ของร่างกาย โดยเฉพาะความสมดุลย์ของตับและตับอ่อน ทำให้ร่างกายสร้างโคเลสเตอรอล และ อินซูลิน ในปริมาณที่เหมาะสม เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะที่สมดุลย์ ก็จะตอบสนองต่ออินซูลินได้อย่างเหมาะสม จึงควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- บำรุงไต เพื่อขจัดต้นเหตุแห่งโรคเบาหวาน เนื่องจากไตอ่อนแอจึงทำให้เกิดโรคเบาหวาน และโรคเบาหวานก็จะทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น จนเกิดภาวะไตวาย ซึ่งถือเป็นวัฏจักรที่เลวร้าย การบำรุงไตให้แข็งแรงขึ้นจึงมีบทบาทที่สำคัญในการบำบัดโรคเบาหวาน
สารพัดอาการและโรคแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดจากโรคเบาหวานจึงค่อยๆทุเลาลง ระยะเวลาในการรักษาอาจไม่เท่ากันในแต่ละคน ทั้งนี้ึขึ้นอยู่กับอายุ ความรุนแรงของอาการ และระยะเวลาที่เรื้อรัง
สนใจติดต่อ โทร.089-487-4773 หมิงคะ